เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 65 รายการโหนกระแสวันนี้ ได้พูดคุยกับสามีโคตรช้ำทุกขลาภ นายมะนิช หนุ่มใหญ่จากร้อยเอ็ด หลังถูกหวยรางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 พ.ย. 65 แต่ตนไม่ค่อยรู้หนังสือ เมียได้สลักชื่อด้านหลังสลากฯ หลังจากขึ้นเงินแล้ว ได้นำเงินฝากเข้าบัญชีเมียสุดรัก กลับถูกเมียเชิดเงินหนีไปกับชายอื่น
นายมะนิช สามีที่ถูกเชิดเงินเล่าว่า หลังถูกรางวัลที่ 1 ตนก็ได้เดินทางไปขึ้นเงินที่กองสลากฯกับภรรยาและลูกๆทั้ง 3 คน หลักหักภาษีแล้วได้รับเงินเข้าบัญชี จำนวน 5,970,000 บาท และได้โอนเข้าบัญชี นางอังคนารัตน์ กลั่นมณี ซึ่งเป็นภรรยา ตนเขียนหนังสือไม่เป็น ทำอะไรไม่ค่อยเป็น บัญชีธนาคารของตัวเองก็ไม่มี จึงต้องพาภรรยาไปด้วย ภรรยาเป็นคนจัดการเปิดบัญชีให้ และได้ให้ภรรยาโอนให้ตน 1 ล้านบาท ด้วยความไว้ใจที่อยู่กันมานานจนมีลูก 3 คน ก่อนที่จะเดินทางกลับบ้าน และขอให้เมียโอนเข้าบัญชีตนเอง 1 ล้านบาท เพื่อเอามาทำบุญ
และไว้ใช้หนี้ในครอบครัว หลังจากนั้นตนก็มาทำบุญใหญ่ที่บ้าน เพราะถือว่าได้โชคก้อนใหญ่มา วันที่ทำบุญภรรยาก็ยังอยู่ จัดงานอะไรกันจนเรียบร้อย แต่ไม่นานหลังจากนั้น ภรรยาก็เก็บข้าวของออกไปจากบ้าน พร้อมกับเงินในบัญชีทั้งหมด
ในส่วนลูกชายเล่าว่า ตนได้ยินมาจากชาวบ้านว่าแม่มีผู้ชายอื่น และเคยเสียเงินเสียทองให้ผู้ชายอื่นมาแล้ว จึงไปเตือนแม่หลังจากทำบุญบ้านว่าเงินถูกหวยเป็นเงินของพ่อ ห้ามเอาไปให้ใครเด็ดขาด แต่แม่ร้อนตัว จึงเกิดการทะเลาะกันขึ้นมา สุดท้ายแม่ก็เก็บข้าวของออกไปเลย ตอนที่ทุกคนโทรตามหาก็ได้ยินเสียงแม่อยู่กับผู้ชาย จึงมั่นใจว่าแม่ไปอยู่กับชายอื่นแน่นอน!
ขณะที่ คุณติ๋ม เพื่อนของฝ่ายภรรยา ยอมรับว่า รู้มานานแล้วว่าเพื่อนมีชายอื่น แต่ไม่กล้าบอกใคร เพราะไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เป็นเรื่องครอบครัวคนอื่น ฝ่ายภรรยาก็มาเล่าให้ตนฟังตลอดว่าเขามีผู้ชายคนไหนบ้าง คนนั้นเลิกไปแล้ว ให้เงินไปเท่านั้นเท่านี้ แล้วก็มามีคนใหม่ ผู้ชายส่วนใหญ่รู้จักในเฟซบุ๊ก ถึงขั้นเคยพามาบ้านตอนมีงานบุญ และแนะนำคนอื่นว่าเป็นหลาน หรือญาติ แม้แต่สามีก็ไม่รู้ แต่มาบอกความจริงกับตนว่าเป็นผู้ชายที่แอบคบกันแบบลับๆ
ขณะที่ได้ต่อสายโทรพูดคุยกับภรรยาในรายการ เพื่อตามภรรยามาคืนเงินให้สามี แต่ฝ่ายภรรยาบอกว่า ดูชื่อที่สลากฯสิว่าสลักชื่อใครไว้ ตนไม่ได้ทำผิดอะไร ให้ไปตรวจสอบได้เลยว่าใครเป็นคนไปขึ้นเงินที่กองสลากฯ มีชื่อระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นชื่อตน เงินเป็นของตนถูกต้องตามกฎหมาย เงินก็เอาเข้าบัญชีของตนโดยตรง ตนไม่ได้เป็นภรรยาของนายมะนิช ทะเบียนสมรสก็ไม่ได้จด ไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ตนจดทะเบียนสมรสกับคนอื่น ส่วนเงินที่ได้มา ตนก็ได้แบ่งให้นายมะนิชไปแล้ว 1 ล้านบาท ในฐานะคนรู้จักเท่านั้น ส่วนลูกๆ ก็ได้แบ่งเงินไว้ให้แล้ว จะให้ลูกสาวคนเล็ก 1 ล้าน คนกลางอีก 5 แสน ส่วนลูกคนโตก็ได้ไปแล้ว 2 แสน
สุดแสนที่จะช้ำใจมาก บอกว่า นายมะนิช ไม่ใช่สามี แต่เป็นแค่คนรู้จัก ส่วนทนาย บอกว่า ความจริงสามารถสืบได้ อดีตภรรยาสวนกลับ บอกสืบเลยค่ะ ส่วนบัญชี ธกส. เงิน 1 ล้าน กับ บัตรประชาชนอดีตสามีที่เอาไป อดีตภรรยาบอกว่า ก็ไปทำใหม่ได้เลย เพราะตัวเองไม่มีสิทธิ์เบิกอยู่แล้ว ไปแจ้งความบัตรหายได้เลย ส่วนเงินที่เหลือยืนยันจะไม่คืนเงินให้แน่! ซึ่งคุณหนุ่ม กรรชัย ถึงกับบอกว่า ช็อกเป็นไก่ตาแตก เป็นอีกเทปที่ทำผมอึ้งไปเหมือนกัน พร้อมช่วยปลอบ นายมะนิช ต้องผ่านไปให้ได้ ยังมีผม ยังมีลูก
ในส่วนของทนายแก้ว ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล ยืนยันว่า เงินที่ถูกหวยเป็นทรัพย์สินของคุณมะนิช สามารถไปแจ้งความอดีตภรรยาฐานยักยอกทรัพย์ได้ แล้วใครที่ได้เงินไปจากผู้หญิงคนนี้ ก็มีความผิดฐานรับของโจร ถึงจะไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่เงินถูกรางวัลสลากฯ มันเป็นเรื่องเฉพาะตัว
ไม่เกี่ยวกับการสมรส เมื่อฟังคำพูดที่ภรรยาโทรเข้ามาพูดคุยในรายการแล้ว ไม่มีความตั้งใจจะไกล่เกลี่ยหาทางออกร่วมกันเลย คงจะจบด้วยดียาก อาจจะต้องดำเนินการตามกฎหมายไปทนายแก้วก็พยายามจะช่วยไปแจ้งความที่ร้อยเอ็ด แต่ นายมะนิช ถามว่า “เอาแค่เงินคืนใช่ไหม เขาจะถูกจับไหม” ทนายบอกว่าก็ต้องถูกจับ นายมะนิช บอกว่า “งั้นไม่แจ้งความ ไม่อยากให้เขาถูกจับ”
คุณหนุ่ม กรรชัย ถึงกับลั่น “พี่โคตรพ่อพระ นับถือใจพี่มากว่ะ” พี่บอกพี่ไม่รู้หนังสือ แต่สิ่งที่พี่ทำให้เห็นแตกต่างจากที่ผมทำรายการมาตลอด เจอแต่คนบอกว่าต้องแจ้งความให้ถึงที่สุดต่อให้เป็นเมียเป็นลูก พี่เป็นคนแรกที่บอกผมว่าไม่แจ้งความดีกว่า ไม่อยากให้เขาเข้าคุก น้ำใจของคนไม่รู้หนังสือ พร้อมยกมือไหว้ บอกผมไหว้เลย “ใจพี่ใหญ่จริงๆ”
คุณหนุ่ม กรรชัย ถึงกับลั่น “พี่โคตรพ่อพระ นับถือใจพี่มากว่ะ” พี่บอกพี่ไม่รู้หนังสือ แต่สิ่งที่พี่ทำให้เห็นแตกต่างจากที่ผมทำรายการมาตลอด เจอแต่คนบอกว่าต้องแจ้งความให้ถึงที่สุดต่อให้เป็นเมียเป็นลูก พี่เป็นคนแรกที่บอกผมว่าไม่แจ้งความดีกว่า ไม่อยากให้เขาเข้าคุก น้ำใจของคนไม่รู้หนังสือ พร้อมยกมือไหว้ บอกผมไหว้เลย “ใจพี่ใหญ่จริงๆสุดท้าย คุณหนุ่ม กรรชัย อาสาว่าจะให้ผมช่วยอะไรให้ไหม นายมะนิช บอกว่า ไม่มี ถ้าภรรยากลับมาก็พร้อมให้อภัย ทั้งตนและลูกอยากให้เขากลับตัวกลับใจ กลับมาแต่โดยดี เพราะสงสารลูกคนเล็กอายุ 11 ปี เงินจะเอาไปใช้ก็เอาไปเลย เดี๋ยวตัวเองค่อยหาใหม่! ถ้าอยู่กันเป็นครอบครัวไม่ได้ ก็กลับมาดูแลลูกก็พอ.
ติดตามข่าวอื่นได้ที่ ruaytoday
