วันนี้เรามีประเด็ดข่าวที่เป็นอุทาหรณ์จากเพจ Raider repoter มาให้อ่านกัน สำหรับเจ้าของกิจการหรือใครที่กำลังคิดอยากทำธุรกิจที่เป็นของตัวเองฟังทางนี้ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ก่อนคิดที่จะทำการตลาดเพื่อให้บริการหรือสินค้าของเราเป็นที่รู้จักกันไปอย่างแพร่หลายและขายสินค้าได้ในที่สุด!
หาลูกค้า หาตัวแทน ทำสต๊อก ตอบแชท และจัดส่งสินค้าให้ จากที่ได้พูดคุยและปรึกษารายละเอียดต่างๆตอนแรกจ่ายเงินไปก่อน 5,000 บาท ทางบริษัทก็ได้พูดเคลมให้ฟังว่า ทางบริษัทจะทำให้แบรนด์เราเป็นที่รู้จักเร็วและกระจายสินค้าได้เลยหลังจากที่เซ็นสัญญา มีตัวแทนในมือ 3-4 หมื่นคน คุณตาลจึงได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับทางบริษัทนี้ โดยจ่ายเงินก้อนแรกไปก่อน 800,000 บาท (ในวันที่ 15 มี.ค.65) แต่ระยะในการทำงานต่อ 1 เดือนคือต้องจ่ายเดือนละ 400,000 บาท จ่ายขั้นต่ำ 3 เดือน คือทั้งหมด 1,200,000 บาท แต่จะแถมให้อีก 2 เดือน รวมเป็น 5 เดือนในการทำงานให้ และแถมการวางแผนให้งานอีก 1 ปี ตามสัญญาที่ได้ตกลงกันไว้ ซึ่งไม่รวมค่ายิงแอดและโฆษณาจากที่ต่างๆและค่าจ้างงานจากที่อื่นๆ ต้องจ่ายต่างหากเองอีกด้วย
แต่กลับได้รับจดหมายของทนายกลับมาว่า ให้จ่ายเงินเพิ่มอีก 800,000 บาท เนื่องจากได้งานเกินจากที่ทำสัญญากันไว้ เกิน 2 เดือน ซึ่งคุณตาลถามว่าถ้าต้องจ่ายเพิ่มอีก 800,000 บาท จะได้อะไรกลับมา เพราะตั้งแต่ที่ทำไปขายของไปได้แค่เพียง 1 ชิ้นเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าได้ลงทุนกับการทำการตลาดไป ล้านกว่า แต่กลับทำการตลาดให้เราได้แค่หลอดเดียว 390 บาท แล้วต้องมาคอยนั่งตอบแชทเองอะไรเองส่งของเอง และลูกค้าไม่ตรงกลุ่มเป้าหมายเลย ในสัญญาเขียนไว้ว่า จะตอบแชทให้ตั้งแต่ 09.00 -20.00 น. เลย แต่กลับเป็นการตอบข้อความอัตโนมัติที่ตั้งหัวข้อไว้เพื่อตอบกลับข้อความของสินค้าเท่านั้น ซึ่งถ้าจะถามนอกเหนือจากที่ตั้งไว้คือไม่มีคนจริงๆตอบให้เลย ต้องเข้าไปตอบเอง
แล้วที่ทำไปทั้งหมดได้ผลตอบแทนมาเท่านี้เองหรือ ผ่านไปตั้ง 7 เดือนแล้ว ไม่คุ้มค่าที่เสียไปเป็นล้านกว่าเลย แถมยังมีจดหมายส่งมาเรียกเก็บอีก 2 เดือน ที่ว่าเกินไปตั้ง 800,000 บาท คืออะไร และได้คุยกับพนักงานและฝ่ายบัญชีเท่านั้น จะคุยกับเจ้าของบริษัทหลังจากที่จ่ายเงินไปแล้วติดต่อยากมาก บอกไปต่างประเทศบ้างอะไรบ้าง ได้คุยแค่ตอนที่จ่ายเงิน 5,000 บาทตอนแรก และคุยอีกครั้งตอนจ่ายเงินเซ็นสัญญาไป 800,000 แรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยอีกเลย จึงอยากออกมาเตือนภัย และมาเล่าประสบการณ์การทำการตลาดในครั้งนี้ด้วย ว่าการทำธุรกิจแค่ดูหน้าตากับความเชื่อมั่นบางทีก็อาจไม่ได้เป็นแบบที่เราคิด
ต้องศึกษาให้ดีกว่านี้ ว่าบริษัทยังอยู่ไหม ยังจดทะเบียนอยู่ไหม มีความปลอดภัยแค่ไหนกับการที่ไปเสี่ยงลงทุนว่าจ้าง เพราะทุกวันนี้การตลาดมันเยอะแยะมากมายเหลือเกิน ก่อนจะทำอะไรให้ ศึกษาเยอะๆก่อนลงทุนและมีผู้เสียหายจากที่ได้ทำกับบริษัทนี้ค่อนข้างเยอะด้วยจากที่เจ้าตัวทราบมาและได้กล่าวไว้ดังกล่าว ฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์กันด้วยนะคะ
ติดตามข่าวสารอื่นได้ที่ ruaytoday